5 พฤติกรรมติดเทรนด์ความรักยุคออนไลน์
ในช่วงศตวรรษที่ 20 ทั่วโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายหลายสิ่ง ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของมนุษย์ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องพฤติกรรมของความรัก ที่หลายคนให้นิยามของพฤติกรรมเหล่านี้ว่าเป็นเทรนด์ของความรักในยุคออนไลน์ ยุคที่อินเทอร์เน็ตย่อโลกทั้งใบมาอยู่ในมือคุณ ซึ่ง พฤติกรรมของมนุษย์ที่บ่งบอกถึงเทรนด์ความรักในยุคออนไลน์มี 5 ข้อดังนี้
1. มาเร็วไปเร็ว เพราะโลกออนไลน์ มีแอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับการพบปะสนทนา เลือกคบเพื่อนมากมาย ไม่เว้นแม่แต่ในการเล่นเกมส์ออนไลน์และคาราโอเกะ การสนทนาแบบไม่ได้สบตากัน ทำให้เกิดจินตนาการได้กว้างไกล ความสัมพันธ์ผ่านการแชทสนทนา จึงเปิดโอกาสให้มีการสร้างสัมพันธ์ สานต่อ หรือยุติความสัมพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว และมีทางเลือกตลอดจนโอกาสใหม่ ๆ ในการแชทสนทนาได้พร้อม ๆ กันหลายคน
2.จับปลาหลายมือ เป็นพฤติกรรมการฉวยโอกาสจากความอิสระและเสรีบนโลกออนไลน์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทำให้เกิดกระแสการแอบจีบ แอบคบกันจนบางคู่ ลุกลามบานปลายจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำลายความสุขของคนในครอบครัว เป็นเหตุให้หลายคู่ลงเอยด้วยการทะเลาะเบาะแว้ง ทำร้าย ทำลายข้าวของ และอาจนำไปสู่สาเหตุฆาตกรรมตามที่เคยเป็นข่าวจนนับครั้งไม่ถ้วน
3.กดไลก์ กดเลิฟ เป็นพฤติกรรมของคนทั่วไป โดยเฉพาะบรรดานักเลงคีย์บอร์ดที่ชอบส่งรูปและคอมเม้นท์กระเซ้าเย้าแหย่ในเพจต่าง ๆ อย่างสนุกสนาน จนลืมนึกถึง 13 ข้อห้ามใน พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ได้แก่ 1.เข้าถึงระบบหรือข้อมูลของผู้อื่นโดยไม่ชอบ 2.แก้ไข ดัดแปลง หรือทำให้ข้อมูลผู้อื่นเสียหาย 3.ส่งข้อมูลหรืออีเมลก่อกวนผู้อื่น หรือส่งอีเมลสแปม 4.เข้าถึงระบบหรือข้อมูลทางด้านความมั่นคงโดยมิชอบ 5.จำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งเพื่อนำไปใช้กระทำความผิด 6. นำข้อมูลที่ผิด พ.ร.บ.ฯ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ 7.ให้ความร่วมมือ ยินยอม รู้เห็นเป็นใจกับผู้ร่วมกระทำความผิด 8.ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงภาพ 9.เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเยาวชน ต้องกระทำโดยปกปิดไม่ให้ทราบตัวตน 10.เผยแพร่เนื้อหาลามก อนาจาร 11.กด Like & Share ถือเป็นวิธีหนึ่งในการเผยแพร่ข้อมูล 12.แสดงความคิดเห็นที่ผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ 13.ละเมิดลิขสิทธิ์ นำผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง ซึ่งควรระมัดระวังในการโพสต์แชร์สาธารณะ
4.การมีคนรักได้หลายคนไม่จำกัดชายหรือหญิง เป็นเรื่องที่สังคมสมัยใหม่ในยุคออนไลน์ยอมรับมากขึ้น เป็นพฤติกรรมที่ซับซ้อนในเชิงความสัมพันธ์แบบกลุ่ม และก้าวข้ามเส้นแบ่งเรื่องเพศสภาพออกไป หากทุกฝ่ายยอมรับได้ ความสัมพันธ์ก็ดำเนินต่อไปอย่างเท่าเทียม แต่หากคนรักไม่ล่วงรู้พฤติกรรมเหล่านี้ ก็ไม่ต่างอะไรจากการถูกนอกใจ หลายคู่คลี่คลายไปในทางที่ดี แต่ในบางกรณีก็ลงเอยด้วยวิธีการใช้ความรุนแรงเพื่อจบปัญหา
5.รักนะแต่ไม่อยู่ด้วยกัน เป็นเทรนด์ยอดนิยม เพราะมนุษย์เราต่างก็ต้องการอิสระมากขึ้น จึงใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีช่วยย่นระยะทางและเวลาให้มนุษย์เราได้ใกล้ชิดกัน แต่ต้องทำความเข้าใจตรงกันว่าจะไม่ยึดติดกับความสัมพันธ์ที่ต้องอยู่เคียงข้างกันเสมอไป เพราะต่างคนต่างมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และการทำธุรกิจที่แตกต่างกัน หรืออาจไม่ต้องการอยู่ภายใต้กรอบการแต่งงาน จึงอาศัยเทคโนโลยีออนไลน์ช่วยเชื่อมโยงความสัมพันธ์ มองในแง่ดีอาจทำให้ทะเลาะกันน้อยลง ใจเย็นลง ให้เกียรติกันมากขึ้น ประคับประคองจิตใจกันไป แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ทั้งคู่ต้องมีความมั่นคงทางจิตใจที่เข้มแข็งแรง มีการมองโลกในแง่บวก จึงจะช่วยให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น
ถึงยุคสมัยจะเปลี่ยนไป มีโลกออนไลน์ให้แสวงหาความรัก แต่ท้ายที่สุดก็ต้องกลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งความรักที่ดีนั้น ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเป็นคนดี ไม่เบียดเบียนกัน จึงจะเป็นความรักที่ทำให้เกิดผลดีต่อทุกคน